การศึกษาเป็นอีกหนึ่งการบ้านที่คุณพ่อคุณแม่ต้องวางแผนให้ลูกรักอย่างเป็นแบบแผนตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อรากฐานที่ดี การหาโรงเรียนแบบไหนให้ลูกจึงกลายมาเป็นคำถามยอดฮิตของคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ในปัจจุบัน บอกเลยว่าในระบบการศึกษาไทยนั้นมีโรงเรียนหลายประเภทด้วยกันให้เลือก เราจึงรวบรวม 6 ประเภทโรงเรียนที่น่าสนใจมาให้คุณรู้จักที่นี่
1. โรงเรียนรัฐบาล
ตัวเลือกแรกในการหาโรงเรียนให้ลูกก็คงหนีไม่พ้นโรงเรียนรัฐบาลเพราะเป็นโรงเรียนที่สามารถหาได้ง่ายๆ ในเขตพื้นที่ของคุณ จุดเด่นก็คือค่าเทอมที่ถูกเมื่อเทียบกับโรงเรียนอื่นๆ อีกทั้งโรงเรียนรัฐบาลนั้นยังเต็มไปด้วยสีสันจากสังคมเพื่อนร่วมชั้นที่หลากหลาย แม้ว่าจะต้องอยู่ในกฎระเบียบที่เคร่งครัด แต่ก็คุ้มค่ากับประสบการณ์ที่ได้รับ
แต่ก็มีข้อเสียคือการดูแลใส่ใจที่ไม่ทั่วถึง เนื่องจากเด็กนักเรียนโรงเรียนรัฐบาลมีจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรงเรียนดัง จำนวนเด็กต่อห้องจะเยอะเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังเลือกบุคลากรที่จะมาสอนลูกไม่ได้ เนื่องจากเป็นข้าราชการครูที่ถูกหมุนเวียนมาสอนโดยกระทรวงฯ
2. โรงเรียนนานาชาติ
หากคุณมีงบประมาณสูงและต้องการปูพื้นฐานภาษาต่างประเทศให้ลูกของคุณเป็นพิเศษ การหาโรงเรียนนานาชาติเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ คือคำตอบที่ใช่ ค่าเทอมหลักแสนกับหลักสูตรที่อิงจากต่างประเทศจะทำให้ลูกของคุณมีสังคมที่กว้างไกล มีเพื่อนหลากหลายเชื้อชาติ บางโรงเรียนถึงกับจำกัดจำนวนนักเรียนไทย ทำให้รับรองเลยว่าภาษาอังกฤษแข็งแรงอย่างแน่นอน เนื่องจากการสื่อสารจะเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น อาจารย์ผู้สอนเป็นชาวต่างชาติที่ใช้ภาษาอังกฤษทุกรายวิชา นอกจากนี้โรงเรียนนานาชาติยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการเรียนรู้และพัฒนาทักษะในหลายๆ ด้านอย่างครบครัน
แต่แน่นอนว่าก็มีข้อเสียอยู่บ้าง เช่น ภาษาไทยอาจจะเป็นภาษาที่อ่อนของลูกคุณไปโดยปริยาย ยกเว้นว่าคุณจะสามารถสอนภาษาไทยลูกที่บ้าน นอกจากนี้ สำหรับบางครอบครัวค่าเทอมโรงเรียนนานาชาตินั้นนับว่าแพงมาก
3. โรงเรียนสองภาษา
หากโจทย์การหาโรงเรียนให้ลูกคืออยากให้ได้ภาษาอังกฤษแต่ภาษาไทยก็ไม่อยากทิ้ง โรงเรียนสองภาษาก็ตอบโจทย์อย่างมาก เหมาะสำหรับคนที่งบประมาณในระดับหนึ่ง ค่าเทอมแพงกว่าโรงเรียนรัฐทั่วไปอยู่บ้าง แต่นับว่าจับต้องได้ และก็ไม่สูงเท่าโรงเรียนนานาชาติ
อันที่จริงโรงเรียนสองภาษาอาจเป็นได้ทั้งโรงเรียนรัฐและโรงเรียนเอกชน เพราะโรงเรียนรัฐบางแห่งก็มีหลักสูตร English Program ซึ่งเรียนสองภาษาเช่นกัน โรงเรียนสองภาษาไม่ใช่ลูกผสมของโรงเรียนสองประเภทแรก เพราะโดยรวมก็ยังอิงตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ เน้นวิชาการแบบโรงเรียนไทย สังคมโรงเรียนแบบไทย เพียงแต่เพิ่มความเข้มข้นของการเรียนภาษาอังกฤษกับอาจารย์ชาวต่างชาติในบางรายวิชาเข้าไปเท่านั้น
4. โรงเรียนสาธิต
หาโรงเรียนให้ลูกที่วิชาการเข้มๆ หนักๆ โรงเรียนสาธิตก็เหมาะสมเพราะเป็นโรงเรียนที่อยู่ในการดูแลของสังกัดมหาวิทยาลัย การแข่งขันสูงที่มาพร้อมกิจกรรมมากมายให้เข้าร่วมจะทำให้ลูกของคุณไม่มีเหงาทั้งวิชาการและกิจกรรม
โรงเรียนสาธิตทุกที่มักจะเป็นโรงเรียนที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูงมาก มีหลักสูตรการศึกษาที่เรียนเร็วกว่าโรงเรียนรัฐทั่วไป อีกทั้งยังมีการนำร่องหลักสูตรใหม่ๆ ของกระทรวงฯ บางโรงเรียนจะมีการเรียนแบบการเรียนแบบมหาวิทยาลัย เช่น การให้ลงวิชาเลือก วิชาเสรี เป็นต้น
5. โรงเรียนคาทอลิก
ถ้าต้องการหาโรงเรียนเน้นสังคมเพื่อนฝูงที่ไปพร้อมๆ กันวิชาการเหนียวแน่น โรงเรียนคาทอลิกก็คือคำตอบ หลักสูตรในการเรียนยังอิงตามประเทศไทย มีความเข้มข้นกว่าโรงเรียนรัฐทั่วไปบางแห่ง ที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดคือสังคมภายในโรงเรียนประเภทนี้จะกว้างขวางมาก ค่อนข้างเคร่งในระบบรุ่นและระบบศิษย์เก่า มักจะให้สิทธิพิเศษกับศิษย์เก่ามากกว่า มีคอนเน็กชันให้ได้ใช้ในอนาคตอย่างแน่นอน หากสังเกตจะเห็นได้ว่าพ่อแม่ที่เคยเรียนโรงเรียนคาทอลิกก็มักจะส่งลูกไปเรียนที่เดียวกัน เรียกได้ว่าส่งต่อความเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนนั้นๆ กันไปหลายๆ รุ่น
โรงเรียนคาทอลิกเรียกขานอาจารย์ว่าบราเทอร์หรือมาสเตอร์ แต่ไม่มีการชักจูงให้เปลี่ยนศาสนา ดังนั้นแม้คุณจะนับถือศาสนาพุทธก็เข้าเรียนได้
6. โรงเรียนทางเลือก
โรงเรียนประเภทสุดท้ายคือโรงเรียนทางเลือก ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เป็นอิสระจากการควบคุมจากกระทรวงศึกษาธิการ ไม่วิ่งตามระบบการศึกษากระแสหลัก เหมาะสำหรับคนที่หาโรงเรียนให้ลูกโดยเน้นเรื่องการปฏิบัติเป็นหลัก เรียนนอกห้องเรียน อยู่กับธรรมชาติและส่งเสริมเด็กนักเรียนโดยเน้นหลักองค์รวม (Holistic) รอบด้านแบบพอดี ไม่หนักวิชาการ ในไทยอาจจะมีโรงเรียนประเภทนี้ไม่มากนัก แต่ก็เป็นอีกประเภทที่น่าสนใจ
โรงเรียนทางเลือกหลายแห่งมักใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนการสอน เช่นที่ "โรงเรียนนานาชาติวันเดอร์แวลี่ย์" ของเราเอง ที่มุ่งมั่นจะจัดการศึกษาแบบเน้นการเรียนแบบใกล้ชิดธรรมชาติ เรียนแบบปราศจากความกลัวหรือแรงกดดัน ก็จะมีการใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการสื่อสาร โดยหลักสูตรหรือหลักการเรียนของเราไม่ได้อิงหลักสูตรไทย เราใช้หลักสูตรจากประเทศอังกฤษ มุ่งเน้นที่ความสมบูรณ์ ทั้งทางกายภาพ ทางอารมณ์ ความคิด และจิตวิญญาณของเด็กนักเรียนทุกคน
สรุปควรใช้หลักใดในการหาโรงเรียนให้ลูก
แต่ละครอบครัวอาจยึดปัจจัยที่นำมาตัดสินใจแตกต่างกันไป บางคนเน้นภาษา บางคนเน้นกิจกรรม แต่สิ่งสำคัญสุดที่คุณควรคำนึงถึงนั่นก็คือลักษณะนิสัยและความต้องการเบื้องต้นของลูกรัก ถึงแม้ว่าจะยังเด็กแต่การศึกษาก็เป็นสิ่งที่ลูกของคุณจะต้องเข้าไปพบเจอด้วยตัวเองตลอดหลายปี การสอบถามเพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์หาโรงเรียนให้ลูกอย่างเหมาะสมจึงขาดไม่ได้
นอกจากนี้แล้วการหาโรงเรียนให้ลูกนั้นนอกจากจะหาข้อมูลทางออนไลน์อย่างละเอียด การไปดูสถานที่จริงก็เป็นอีกขั้นตอนที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เพราะคุณจะได้รู้จักทั้งวิธีการเดินทาง สภาพแวดล้อมและบรรยากาศของโรงเรียนนั้นจริงๆ