เมื่อกาลเวลาเปลี่ยน ยุคสมัยเปลี่ยน แน่นอนว่าวิธีการเลี้ยงลูกก็ย่อมต้องเปลี่ยนตามไปด้วย สิ่งหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ต้องยอมรับคือเราไม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยวิธีเดิมๆ ได้ เราไม่สามารถใช้วิธีเลี้ยงลูกแบบที่เราเคยได้รับมาใช้กับเด็กรุ่นใหม่ได้ เพราะพื้นฐานและบริบทของสังคมนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ต้องบอกว่าเด็กยุคใหม่อย่าง Generation Alpha นั้นถือว่ามีความแตกต่างจาก Generation อื่นๆ อย่างชัดเจน เพราะเกิดมาพร้อมกับความเจริญอย่างขีดสุดของเทคโนโลยี นั่นทำให้การรับมือกับเด็ก Gen นี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับคุณพ่อคุณแม่
วันนี้ขอพาคุณพ่อคุณแม่ไปทำความรู้จักกับ Generation Alpha เพื่อทำความเข้าใจไปพร้อมๆ กันว่าเด็กยุคใหม่ ‘เจนอัลฟ่า’ นี้มีคุณลักษณะพื้นฐานร่วมกันอย่างไร และพ่อแม่ควรมีวิธีการรับมือแบบไหน? เพื่อให้พวกเขาเติบโตมาอย่างมีสมดุล
Generation (เจนเนอเรชั่น) คืออะไร?
ก่อนอื่นมาเข้าใจกันก่อนว่า Generation นั้นคืออะไร สำหรับใครที่อาจจะไม่คุ้นเคยกับการแบ่งประชากรออกเป็นแต่ละ Generation หรือที่หลายคนเรียกสั้นๆ ว่า Gen ก็คือ การแบ่งกลุ่มของประชากรโดยหลักประชากรศาสตร์ ซึ่งหลักการแบ่ง Generation จะแบ่งตามยุคสมัยหรือช่วงปีที่เกิด
Gen Alpha คือใคร?
Generation Alpha ก็คือเด็กๆ ที่เกิดในช่วงปี พ.ศ.2553 – 2568 หรือตั้งแต่ปี 2010 ขึ้นไป ส่วนใหญ่จะมีคุณพ่อคุณแม่อยู่ในช่วง Gen Y และ Gen Z ซึ่งเด็กๆ Generation Alpha รุ่นแรกก็น่าจะอายุประมาณ 12 ปีได้แล้ว เป็นเด็กที่เกิดมาในยุคของเทคโนโลยีเต็มรูปแบบ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าในอนาคต จะมีประชากร Gen Alpha มากถึง 2,000 ล้านคนทั่วโลกเลยทีเดียว
ลักษณะพื้นฐานของเด็กๆ Generation Alpha
ว่ากันว่า เด็กๆ เจนอัลฟ่านั้นจะเป็นเด็กที่ฉลาดที่สุดในเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่เคยผ่านมาทั้งหมด รวมทั้งมีคลังความรู้มหาศาลในสมอง นั่นเพราะเมื่อเทียบกับรุ่นที่ผ่านๆ มาพวกเขาคือกลุ่มที่สามารถใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ อีกทั้งยังเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว และยังเรียนรู้แบบเฉพาะด้านมากขึ้นอีกด้วย
ในภาพรวมนั้น Generation Alpha ส่วนใหญ่จะเติบโตมากับเทคโนโลยี ทำให้พวกเขามีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์สูงกว่าทุกเจนที่ผ่านมา มีความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ในระดับสูง สามารถใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ได้ดี กล้าคิดกล้าทำ กล้าลองผิดลองถูก
การใช้ชีวิตอยู่กับเทคโนโลยีทำให้ Generation Alpha เป็นเด็กที่มีความเป็นตัวเองสูง รักอิสระ มีความเป็นปัจเจกสูง ความอดทนไม่สูง ค่อนข้างชื่นชอบการใช้ชีวิตคนเดียว อาจมีลักษณะของการขาดการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ขาดความยืดหยุ่น ห่างไกลจากธรรมชาติ ความเชื่อและศาสนา (หากเราเทียบกับเจเนอเรชั่นที่ผ่านๆ มา)
วิธีรับมือกับเด็กๆ Generation Alpha สำหรับผู้ปกครอง
เข้าใจธรรมชาติพื้นฐานของเด็กเจนอัลฟ่ากันไปแล้ว ต่อไปเรามาดูกันว่าในฐานะพ่อแม่ Gen Y ของเด็กยุค Gen Alpha คุณพ่อคุณแม่ควรจะเริ่มวางรากฐานให้กับลูกน้อยไปในทิศทางได้ ไม่ใช่เพียงเพื่อให้ลูกต้องดี ต้องเก่ง ต้องก้าวทันโลกให้ได้ แต่สามารถที่จะเติบโตอย่างมีสมดุลที่เหมาะสม ต้องทำอย่างไรมาดูกันทีละข้อ
1. เข้าใจธรรมชาติของ Gen Alpha
สิ่งที่สำคัญที่สุดในความสัมพันธ์ทุกรูปแบบคือ ความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งหมายถึงการทำความเข้าใจกับพฤติกรรมและลักษณะของ Generation Alpha บางประการ เอาใจลูกมาใส่ใจเรา เข้าใจสังคมและบริบทรอบตัวที่ลูกต้องออกไปเผชิญ พ่อแม่ควรปรับตัวและเปิดใจให้กับธรรมชาติของเด็กใน Gen นี้ให้มากที่สุด ยิ่งคุณพ่อคุณแม่ปรับตัวได้มากเท่าไหร่ ก็จะสามารถเข้าใกล้ความคิดลูกได้มากเท่านั้น
2. ใช้เหตุผลเป็นหลัก
ที่จริงไม่จำเป็นจะต้องเป็น Gen Alpha ไม่ว่าจะ Gen ใดก็ตาม การสื่อสารด้วยสติปัญญาและการใช้เหตุผล คือหัวใจสำคัญของการถ่ายทอดภูมิปัญหา ความคิด รวมถึงเป็นหนทางที่จะช่วยให้เข้าใจความรู้สึกของกันและกันได้ การใช้เหตุผลจะทำให้ลูกๆ รู้สึกอุ่นใจ และไว้วางใจคุณพ่อคุณแม่ ทำใหรู้ว่าแม้วัยจะแตกต่างกัน เติบโตมาในยุคที่แตกต่างกัน แต่ก็คุยกันด้วยเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์ ทำให้เมื่อมีปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือ เด็กจะได้กล้าคุยกับคุณพ่อคุณแม่ในทุกๆ เรื่อง
3. ไม่ปิดกั้น ให้อิสระในการใช้ความคิดอย่างเต็มที่
สำหรับเด็ก Generation Alpha การบังคับหรือชักจูงให้เป็นไปตามที่ต้องการไม่ใช่ทางที่ดีสักเท่าไหร่ เพราะ Gen นี้มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ชอบคิดนอกกรอบยิ่งกว่า Gen ก่อนหน้า ให้เข้าใจว่าเป็นธรรมชาติของเด็ก ควรปล่อยให้เด็กได้ใช้ความคิดอย่างเต็มที่ ไม่ปิดกั้นโดยไร้เหตุผลที่น่าเชื่อถือมารองรับ แต่ก็แน่นอนว่าไม่ควรละเลยตามใจไปทุกเรื่อง ทุกอย่างต้องมีขอบเขตที่เหมาะสม
4. เข้าใจว่าเทคโนโลยีเป็นสิ่งจำเป็น แต่ต้องมีขอบเขต
การเติบโตมาพร้อมๆ กับเทคโนโลยีมีทั้งข้อดีและข้อเสียหลายประการ อะไรที่มากหรือน้อยเกินไปย่อมไม่ดี เทคโนโลยียังถือว่าจำเป็นต่อการเรียนรู้ของเด็กเจนนี้ แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องสอนให้เด็กรู้ถึงข้อดีและข้อเสียของเทคโนโลยี รวมถึงต้องมีการตั้งกฎระเบียบในการเล่นอย่างชัดเจน เพื่อเป็นการฝึกวินัย และไม่ทำให้ลูกพึ่งพาเทคโนโลยีมากจนเกินไป
5. เป็นแรงสนับสนุนและกองเชียร์ที่ดี มากกว่าออกคำสั่ง
ไม่ว่าลูกอยากทำอะไร ชอบอะไร ถ้านั่นไม่ใช่สิ่งไม่ดี คุณพ่อคุณแม่ควรสนับสนุน ให้ลูกๆ ได้ลองทำ เพราะ Generation Alpha เป็นเด็กที่อยากรู้อยากลอง และยิ่งพวกเขาได้เรียนรู้ ได้ทดลองมากเท่าไหร่ นั่นก็จะยิ่งเป็นการส่งเสริมทักษะด้านการเรียนรู้ของพวกเขาให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากขึ้น การออกคำสั่งอาจจะทำใหพ่อแม่ได้อย่างที่ต้องการ แต่ลูกจะขาดการฝึกคิดและลงมือทำเอง
6. ส่งเสริมการออกกำลัง และพาลูกๆ ออกไปเจอธรรมชาติบ้าง
อย่างที่บอกว่า Generation Alpha เป็นยุคที่เด็กๆ โตมากับเทคโนโลยี จนห่างไกลจากธรรมชาติ การอยู่กับเทคโนโลยีมากเกินไปนั้นส่งผลเสียกับสุขภาพในหลายๆ ด้าน ดังนั้นพ่อแม่ควรส่งเสริมการออกกำลังกาย หากิจกรรมที่ได้ขยับร่างกายทำกับลูกๆ รวมถึงหาเวลาพาลูกไปเที่ยวเล่นกับธรรมชาติ ก็จะช่วยให้เด็กๆ ได้เข้าใกล้ธรรมชาติมากขึ้น
7. ส่งเสริมการเรียนรู้ ไม่ใช่ ‘เกรด’
ได้หมดยุคของการวัดปัญญาและความรู้กันที่เกรดหรือผลการเรียนซะแล้ว ต่อไปในภายภาคหน้า การเรียนจะมีความเข้มข้นและเฉพาะทางมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นหมายความว่าวิชาการมีความจำเป็น แต่ทักษะเฉพาะทางที่เกิดจากความสนใจของเด็กนั้นเป็นทักษะที่น่าสนใจมากกว่าเป็นไหนๆ ดังนั้นพ่อแม่จึงควรสนับสนุนให้ลูกๆ เจนอัลฟ่าได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ นอกห้องเรียนเสมอ เพื่อตามหาความชอบและความถนัด มากกว่าการส่งลูกไปเรียนพิเศษเพื่อเสริมวิชาการ
ส่งท้าย
คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจจะกังวลในเรื่องการรับมือกับลูกๆ Generation Alpha แต่ถ้าเข้าใจพฤติกรรม ความนึกคิดของเด็ก Gen นี้ แล้วปรับตัวให้สอดคล้อง การรับมือกับเด็กยุคใหม่ เด็กยุคเทคโนโลยี ก็ไม่ยากอย่างที่คิด ลองใช้ทิปส์ด้านบนที่พวกเราได้รวบรวมมา รับรองว่าจะช่วยวางรากฐานการเรียนรู้ที่ดีให้กับลูกน้อย Gen Alpha ได้เป็นอย่างดี
"โรงเรียนนานาชาติวันเดอร์แวลี่ย์" เป็นชุมชนเเห่งการเรียนรู้ที่มุ่งมั่นจะจัดการศึกษาแบบองค์รวมเพื่อพัฒนาเด็กๆ ไปสู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งทางกายภาพ ทางอารมณ์ ความคิด และจิตวิญญาณ สอบถามเพิ่มเติมเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนของเรา สอบถามเพิ่มเติมเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนของเรา